รถไฟฟ้าบูมอสังหาฯคอนโดผุดแสนยูนิต

รถไฟฟ้าบูมอสังหาฯคอนโดผุดแสนยูนิต

รถไฟฟ้าบูมอสังหาฯคอนโดผุดแสนยูนิต เผยเปิดขายโครงการใหม่ ไตรมาสแรก ทะลุ  7 หมื่นล้านบาท
          รถไฟฟ้า บูมอสังหาฯ พบสายสีส้ม คอนโดผุดพรึบ 50 โครงการ  4.5 หมื่นยูนิต เอเยนซี ระบุคอนโด แนวรถไฟฟ้า สร้างเสร็จ 8-36 เดือน จำนวน 1.14 แสนยูนิต คาดเข้าอยู่ 8.2 หมื่นยูนิต ดันราคาที่ดินพุ่ง ไตรมาสแรก คาดเปิดขายใหม่มูลค่า 7 หมื่นล้าน
          นายสมประสงค์ สัตยมัลลี ผู้อำนวยการ กองพัฒนาพื้นที่ การรถไฟขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) กล่าวในงานเสวนาโครงการรถไฟฟ้าไทยเชื่อมต่อเศรษฐกิจอาเซียน วานนี้ (28 มี.ค.) ว่า โครงข่ายรถไฟฟ้าในกทม.และปริมณฑล ทำให้เกิดการขยายตัวของเมือง และการพัฒนาที่อยู่อาศัย เช่น สายสีส้ม เพียงสายเดียว มีคอนโดมิเนียมเปิดตัวมากถึง 50 โครงการ รวมทั้งสิ้น 4.5 หมื่นยูนิต
          "การพัฒนารถไฟฟ้าของไทย แตกต่างจากโมเดลของฮ่องกง ซึ่งพัฒนาเป็นโมเดล "เรล พาร์ค พร็อตเพอร์ตี้" โดยการสร้างรถไฟฟ้าวางแผนนำโครงการคอมเมอร์เชียล เข้ามาซับพอร์ต ทำให้มีการเดินทางตลอดเวลา แต่ของไทยวางแผนพัฒนา เป็นเส้นๆไป ทำให้การเดินทางแน่นเฉพาะช่วงเช้า และเย็นเท่านั้น ระหว่างวัน จะมีการใช้บริการน้อยมาก" สำหรับความคืบหน้ารถไฟฟ้าในกทม. และปริมณฑล ปัจจุบันเปิดบริการแล้ว คือ สายสีน้ำเงิน (สายเฉลิมรัชมงคล บางซื่อหัวลำโพง) โครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง สายสีม่วง (บางใหญ่ บางซื่อ), สายสีน้ำเงิน (บางซื่อ ท่าพระ/หัวลำโพง บางแค) สายสีเขียว แบริ่ง สมุทรปราการ, สายสีเขียว (หมอชิต สะพานใหม่ คูคต) ส่วนโครงการที่ เริ่มประกวดราคาในปี2559 มีสายสีส้ม ส่วนตะวันออก ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี สายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) สายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) สายสีม่วง (เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ สายสีเขียวต่อขยาย (สมุทรปราการ-บางปู) สายสีเขียวต่อขยาย (คูคต-ลำลูกกา) และโครงการที่เริ่มดำเนินการในปี 2560 เป็นต้นไป สายสีส้ม ส่วนตะวันตก (ตลิ่งชัน-ศูนย์วัฒนธรรม) สายสีน้ำเงินต่อขยาย (บางแค-พุทธมณฑลสาย 4)
          ด้านนายโสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่า อสังหาริมทรัพย์ไทย บริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (แอเรีย) เปิดเผยว่า โครงการรถไฟฟ้าถือเป็นปัจจัยเร่งทำให้เกิด การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์พื้นที่โดยรอบ
          ทั้งนี้มีคอนโดมิเนียมในเมืองและแนวรถไฟฟ้า สร้างเสร็จในระยะเวลา 8-36 เดือน มีจำนวน 1.14 แสนยูนิต คาดมีอัตราการเข้าพัก ทั้งหมด 8.2 หมื่นยูนิต ในจำนวนดังกล่าว คาดว่าเข้าอยู่จริง 6.6 หมื่นยูนิต คิดเป็น 2 ใน 3 แสดงว่าส่วนใหญ่ซื้อเพื่ออยู่จริง และที่เหลือมากกว่า 3.2 หมื่นยูนิต ซื้อแล้วไม่เข้าอยู่ และซื้อเพื่อขายต่อ
          นอกจากนี้ การสร้างรถไฟฟ้า เป็นปัจจัยเร่งการขึ้นราคาของที่ดิน  เฉลี่ยกว่า 20% จากราคาเฉลี่ยปรับขึ้น 8-12% ต่อปี โดยเฉพาะทำเลสุขุมวิทตอนต้นที่ราคาซื้อขายแพงสุด ปรับขึ้นกว่า 3-4 เท่า และมีผลทำให้ราคาขายคอนโดใจกลางเมืองเกิดใหม่ มีราคาขายค่อนข้างสูง คือ ตรม.ละ 2-3 แสนบาทขึ้นไป
          "ในปีนี้ราคาที่ดิน ยังเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องคาดว่าจะเพิ่ม 3% จากปี 2558 เพิ่มขึ้นน้อยกว่าปี 2557 เทียบ 2556 ที่เพิ่ม 3.5% ตามภาวะเศรษฐกิจของไทยมีแนวโน้มเติบโตลดลง ส่งผลต่อความต้องที่ดินเพื่อใช้ในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยราคาที่ดินที่แพงสุดอยู่ที่ 1.75 ล้านบาทต่อตารางวา ได้แก่บริเวณสยาม ชิดลม เพลินจิต"
          ทั้งนี้ ช่วง 1 ปีที่ผ่านมา พบว่า ที่ดินตามแนวรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย ตากสิน-บางหว้า ปรับเพิ่มขึ้นสูงที่สุด 14.0% สายสีน้ำเงิน หัวลำโพง-บางแค เพิ่มขึ้น 12.4% รองลงมา คือ สายสีม่วง บางซื่อ-บางใหญ่ เพิ่มขึ้น 9.8% ส่วนต่อขยาย อ่อนนุช-แบริ่ง 8.9% หมอชิต-อ่อนนุช ปรับเพิ่มขึ้น 8.5% สายสีน้ำเงิน บางซื่อ-ท่าพระ เพิ่มขึ้น 8.6% ส่วนต่อขยาย หมอชิต-สะพานใหม่ 5.0% (เหตุยังไม่ได้ลงมือก่อสร้าง) ส่วนรถไฟฟ้าใต้ดิน ราคาเพิ่มขึ้น 8.5% และที่ดินตามแนวรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ เพิ่มขึ้น 5%
          อย่างไรก็ดี โครงการรถไฟกรุงเทพฯโคราช ที่มีความชัดเจนว่าจะเดินหน้าทำโครงการไม่เพียงทำให้การเดินทางสะดวกรวดเร็วมากขึ้นแล้ว ยังมีผลต่อการขนส่งสินค้าที่ เชื่อมโยงประเทศเพื่อนบ้าน จากจีน ลาว และไทย เท่ากับเป็นการเชื่อมต่อเศรษฐกิจ ในประเทศอาเซียน อีกทั้งยังให้มูลค่าที่ดิน เพิ่มสูงขึ้นส่งผลให้อสังหาฯในโคราชกลับมา คึกคักอีกครั้งจากปัจจุบันตลาดอสังหาฯใน ต่างจังหวัด ทั้งนครราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานี เชียงใหม่ เพราะว่าการเปิดตัวใหม่ลดลงไปมากกว่า 50%
          สำหรับภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ในไตรมาสแรก คาดว่า จะเปิดโครงการใหม่มูลค่าประมาณ 7 หมื่นล้านบาท--จบ--

ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ

คิดถึงบ้านมือสอง คิดถึง "อินเตอร์โฮม" โทรศัพท์ 02-946-6206
LINE ID : @interhome
www.interhome.co.th