รถไฟทางคู่ สายเหนือ เชื่อมไทย-เอเชีย

รถไฟทางคู่ สายเหนือ เชื่อมไทย-เอเชีย

"รถไฟทางคู่" สายใหม่ที่ประชาชนในพื้นที่ต่างรอคอยกันมานาน หวังว่าจะช่วยสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจ ทำให้การเดินทางสะดวกรวดเร็วมากขึ้น คงหนีไม่พ้นสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 323.10 กิโลเมตร (กม.)

โครงการรถไฟทางคู่สายนี้ ถูกบรรจุให้เป็นหนึ่งในแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทย พ.ศ.2558-2565 ที่ประชุมของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติโครงการให้ดำเนินการก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2561 ที่ผ่านมา โดยถือเป็นรถไฟสายประวัติศาสตร์สายแรกนับตั้งแต่รัฐบาลในอดีตได้เริ่มโครงการมาตั้งแต่ปี 2503 และเริ่มศึกษาความเหมาะสม ในการก่อสร้างตั้งแต่ปี 2507 จนถึงปัจจุบัน รวมระยะเวลา 58 ปีแล้วที่รอคอย

มูลค่าของโครงการอยู่ที่ 85,345 ล้านบาท มีจุดเริ่มต้นที่สถานีเด่นชัย จังหวัดแพร่ มุ่งไปทางทิศเหนือผ่านพื้นที่ 59 ตำบล 17 อำเภอ 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดแพร่ ลำปาง พะเยา และสิ้นสุดที่ด่านพรมแดนเชียงของ จังหวัดเชียงราย มีสถานีทั้งสิ้น 26 สถานี ประกอบด้วย สถานีขนาดใหญ่ 4 สถานี สถานีขนาดเล็ก 9 สถานี และป้ายหยุดรถ 13 แห่ง มีลานขนถ่ายสินค้าจำนวน 4 แห่ง และย่านกองเก็บและบรรทุกตู้สินค้า 1 แห่ง ที่สถานีเชียงของ บนพื้นที่ 150 ไร่ พร้อมแนวถนนเชื่อมต่อด่านชายแดนเชียงของ

โครงการนี้มีจุดเด่นที่สำคัญ คือ เป็นโครงการที่ก่อสร้างโดยไม่มีจุดตัดทางแยกรถไฟ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยบนเส้นทาง มีการออกแบบรั้วกั้นเขตแนวสายทาง และออกแบบสะพานรถไฟ สะพานรถยนต์ข้ามทางรถไฟ ทางรถยนต์ลอดรถไฟ ทางเชื่อมรวมและกระจายจราจร ตลอดจนสะพานลอย ทางเท้า และทางรถจักรยานยนต์ข้ามและลอดทางรถไฟ รวมประมาณ 254 จุด ตลอดแนวเส้นทาง และยังมีอุโมงค์คู่ตามแนวเส้นทางที่พาดผ่านพื้นที่ภูเขา รวมระยะทางประมาณ 13.9 กม. เพื่อให้สามารถเพิ่มระดับความเร็วในการเดินทางขนส่งได้อย่างปลอดภัย

เบื้องต้น กำหนดการก่อสร้างออกเป็น 3 สัญญา คือ สัญญาที่ 1 ช่วงเด่นชัย-งาว ระยะทาง 104 กม. วงเงิน 26,704 ล้านบาท สัญญาที่ 2 ช่วงงาว-เชียงราย ระยะทาง 135 กม. วงเงิน 28,735 ล้านบาท และสัญญาที่ 3 ช่วงเชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 84 กม. วงเงิน 17,482 ล้านบาท มีค่าเวนคืนที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ 10,660 ล้านบาท และค่าจ้างที่ปรึกษา 1,764 ล้านบาท

หลังจาก ครม.อนุมัติแล้ว การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จะต้องเสนอคณะกรรมการกำกับการจัดซื้อจัดจ้าง (ซุปเปอร์บอร์ด) ที่มีนายประสาร ไตรรัตน์วรกุล เป็นประธาน พิจารณาให้ข้อคิดเห็นและให้ความเห็นชอบเรื่องกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง เพื่อให้เกิดความโปร่งใส เช่นเดียวกับโครงการรถไฟทางคู่ 5 เส้นทางแรก ตั้งเป้าหมายเปิดประมูลหาผู้รับเหมาเข้ามาก่อสร้างในปีนี้ และใช้เวลาก่อสร้าง 4 ปี

คาดหวังว่าโครงการนี้จะเป็นเส้นทางสำคัญเพื่อเชื่อมเศรษฐกิจแนวเหนือ-ใต้ เชื่อมอนุภาคลุ่มแม่น้ำโขง เชื่อมต่อกับเส้นทางรถไฟของ สปป.ลาว ที่จะมุ่งตรงสู่เมืองคุนหมิง ประเทศจีน และยังสามารถขนถ่ายสินค้าออกสู่ทะเลทางท่าเรือแหลมฉบังได้ด้วย ยังเป็นการรองรับนโยบายจัดตั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษเชียงราย (SEZ) เป็นการเติมเต็มประสิทธิภาพโครงข่ายการคมนาคมของไทยให้สมบูรณ์ และเป็นการพลิกโฉมจังหวัดเชียงรายให้เป็นโลจิสติกส์ ซิตี้ ของภูมิภาคในอนาคต

จากนี้ไปคงต้องนับถอยหลังเพื่อต้อนรับเส้นทางรถไฟทางคู่มูลค่า 8.5 หมื่นล้านบาท เป็นอีกเส้นทางหนึ่งที่รอคอยมานานแล้ว เป็นการเชื่อมประเทศไทย เชื่อมเอเชียไว้ด้วยกัน และยังมีผลต่อการเชื่อมเส้นทางทวีปอื่นในอนาคตต่อไป

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชน

5 กันยายน 2561