คอนโดย่านพหลมาแรง ราคาพุ่งเทียบชั้นสุขุมวิท

คอนโดย่านพหลมาแรง ราคาพุ่งเทียบชั้นสุขุมวิท

นายอนุกูล รัฐพิทักษ์สันติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านบริหารและจัดการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยผลสำรวจของฝ่ายวิจัยและพัฒนาพบว่าราคาเฉลี่ยของคอนโดมิเนียมเปิดใหม่ย่านพหลโยธินปัจจุบันอยู่ที่ 150,000-170,000 บาทต่อตารางเมตร สูงกว่าโครงการเก่าประมาณ 8% ซึ่งในช่วง4 ปีที่ผ่านมา ปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 8% ต่อปี อีกทั้งคาดว่าในอนาคตคอนโดมิเนียมใกล้สถานีรถไฟฟ้า BTS จะมีแนวโน้มราคาเพิ่มขึ้นอีกเนื่องจากข้อจำกัดของที่ดินสำหรับพัฒนาโครงการใหม่ในย่านนี้ ซึ่งราคาที่ดินที่อยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้า BTS นับตั้งแต่ปี 2556 เริ่มต้นที่ 500,000-1,000,000 บาทต่อตารางวา ราคาในปัจจุบันจึงขยับเข้าใกล้ราคาที่ดินทำเลสุขุมวิท นอกจากนี้ที่ดินย่านพลโยธินยังถูกแบ่งเป็นที่ดินแปลงเล็กที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ ดังนั้นความต้องการ ที่เพิ่มขึ้นบนที่ดินที่หายากมากขึ้นนี้จึงเป็นความท้าทายของผู้ประกอบการ

ปัจจัยที่ส่งผลให้ราคาคอนโดมิเนียมย่านพหลโยธินปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องนั้น เนื่องจากเป็นจุดที่มีการคมนาคมสะดวก สามารถเดินทางได้โดยรถไฟฟ้า BTS และสามารถเชื่อมต่อไปยังสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT โดยการเชื่อมด้วยรถไฟฟ้าBTSที่สถานีจตุจักร อีกทั้งยังมีความสะดวกสบายให้กับผู้อยู่อาศัยเนื่องจากอาคารส่วนใหญ่ตามแนวถนนมีทั้งร้านขายของแห่งใหม่และร้านค้าเก่าแก่ มีห้างค้าปลีกสมัยใหม่และ คอมมูนิตี้มอลล์ ซึ่งเป็นศูนย์รวมธนาคาร ร้านอาหารและซูเปอร์มาร์เก็ต ที่มีทางเดินเชื่อมต่อสู่สถานีรถไฟฟ้าอย่างสะดวก

นอกจากนี้พหลโยธินยังเป็นแหล่งของอาคารสำนักงานจำนวนมากซึ่งเป็นที่ทำงานสำหรับกลุ่มพนักงงานออฟฟิศทั่วไป ถือเป็นกลุ่มที่มีความต้องการที่อยู่อาศัยในรูปแบบของคอนโดมิเนียมที่ไม่ไกลจากที่ทำงานที่นี่ และยังมีความต้องการจากกลุ่มผู้อยู่อาศัยดั้งเดิมที่อยู่กันมานานหลายรุ่นและมีแนวโน้มที่จะไม่ย้ายถิ่นที่อยู่ ซึ่งกลุ่มคนในพื้นที่ดั้งเดิมนี้ก็เป็นอีกกลุ่มที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยเพื่อขยายครอบครัว แต่ยังคงต้องการอาศัยอยู่รอบย่านที่อยู่อาศัยปัจจุบัน คอนโดมิเนียมจึงเป็นอีกทางเลือกที่สะดวกสบาย อยู่ใกล้ครอบครัวดั้งเดิม และ ยังอยู่บนทำเลที่มีถนนเชื่อมต่อหลายสาย ใกล้กับทางด่วน และระบบขนส่งมวลชน

"ทำเลพหลโยธินมีความต้องการซื้อเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 8.4% ต่อปี และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นความต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริงมากกว่าการซื้อเพื่อลงทุน เนื่องจากปัจจุบันมีอาคารสำนักงานจำนวนมาก จึงเกิดความต้องการซื้อเพื่อการอยู่อาศัยจริง (เรียลดีมานด์) ของกลุ่มพนักงานออฟฟิศที่มองหาคอนโดมิเนียมที่ไม่ไกลจากที่ทำงาน และยังมีความต้องการจากกลุ่มผู้อยู่อาศัยดั้งเดิม ที่จะขยายครอบครัว แต่ยังคงต้องการอาศัยอยู่ในบริเวณที่อยู่อาศัยปัจจุบัน คอนโดมิเนียมจึงเป็นอีกทางเลือกที่สะดวกสบาย และยังใกล้กับทางด่วนและระบบขนส่งมวลชนอีกทั้งยังอยู่ในราคาที่จับต้องได้ ด้านการขายต่อและปล่อยเช่ามีผลตอบแทนเฉลี่ยใกล้เคียงกัน อยู่ที่ 5-7% ต่อปี" นายอนุกูล กล่าวในที่สุด

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์บางกอกทูเดย์

21 กันยายน 2561