ดอกเบี้ยเงินกู้บ้านทยอยขึ้น

ดอกเบี้ยเงินกู้บ้านทยอยขึ้น

กรุงศรีเริ่มปรับตั้งแต่ก.ค. เน้นลอยตัวแทนคงที่ ชี้เกณฑ์ใหม่กระตุกสินเชื่อปลายปี ธนาคารทยอยปรับดอกเบี้ยสินเชื่อเคหะขึ้นอย่างเงียบๆ รับทิศทางดอกเบี้ยและต้นทุนเพิ่ม

นายณัฐพล ลือพร้อมชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ทิศทางดอกเบี้ยแคมเปญของสินเชื่อบ้านในตลาดเริ่มปรับขึ้นบ้างแล้ว ซึ่งมองว่าเป็นเรื่องการปรับตามความจำเป็นและเหตุผลของแต่ละธนาคาร เช่น ปรับให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง โดยการปรับดอกเบี้ยไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน และภาพรวมยังถือว่าดอกเบี้ยไม่แพงนักเพราะการแข่งขันยังคงมีอยู่เป็นเรื่องปกติ

สำหรับธนาคารกรุงศรีทยอยปรับขึ้นทีละน้อยตั้งแต่เดือน ก.ค.ที่ผ่านมา โดยอัตราดอกเบี้ยคงที่จะแพงกว่าดอกเบี้ยลอยตัวให้เหมาะสมกับโครงสร้างต้นทุน ขณะที่แนวโน้มไตรมาส 4 ยังไม่สามารถประเมินได้ ต้องติดตามผลสรุปเกณฑ์กำกับดูแลสินเชื่อที่อยู่อาศัย ซึ่งหากประกาศวันที่ 1 ม.ค. 2562 ทั้งระบบ อาจทำให้ยอดสินเชื่อบ้านในปลายปีเพิ่มขึ้นกว่าปกติ แต่หากมีบทเฉพาะกาลที่ให้เวลาปรับตัว ก็อาจจะทำให้สภาพตลาดปรับตัวได้ราบรื่น

ก่อนหน้านี้ นางอภิพันธ์ เจริญอนุสรณ์ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ผู้บริหารสูงสุดปฏิบัติการ ผู้บริหารสูงสุดชำระเงินรายย่อยและผลิตภัณฑ์รายย่อย ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ไทยพาณิชย์ได้ปรับขึ้นดอกเบี้ยบ้านในบางแคมเปญตั้งแต่ไตรมาส 2 ตามทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น และเป็นกลยุทธ์เพิ่มผลตอบแทนสินเชื่อ เนื่องจากโดยพื้นฐานแล้วส่วนต่างดอกเบี้ยของสินเชื่อบ้านแคบมาก แต่เชื่อว่าไม่ส่งผลกระทบต่อเป้าหมายการขยายสินเชื่อ

นายอภินันท์ เกลียวปฏินนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจการเงินฅเกียรตินาคินภัทร กล่าวว่า สินเชื่อบ้านของธนาคารเกียรตินาคินเติบโตสูงมาก โดยยอดคงค้างสิ้นเดือน ก.ย. 2561 อยู่ที่ 1.66 หมื่นล้านบาท เติบโต 47.9% เป็นอัตราสูงบนฐานพอร์ตที่เล็กมาก ส่วนเกณฑ์กำกับของ ธปท. หากออกมาบังคับใช้ก็พร้อมปฏิบัติตาม แม้จะทำให้อัตราการเติบโตอาจจะชะลอลง แต่ส่งผลดีต่อคุณภาพสินเชื่อ

น.ส.ธัญญลักษณ์ วัชระชัยสุรพล รองกรรมการผู้จัดการ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย กล่าวว่า มาตรการกำกับดูแลอาจกระตุ้นการตัดสินใจของลูกค้าที่ซื้อบ้านหลังที่ 2 ที่ 3 จะเร่งโอนก่อนสิ้นปี ทำให้มีโอกาส ที่สินเชื่อบ้านจะเติบโตเกิน 6% โดยกลุ่มที่กระทบมากที่สุดคือคอนโดมิเนียม

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

24 ตุลาคม 2561