DRTโค้งท้ายออเดอร์งานหนุนสัญญาณโตต่อ-ปักธงบุกCLMV

DRTโค้งท้ายออเดอร์งานหนุนสัญญาณโตต่อ-ปักธงบุกCLMV

DRT แย้ม Q4/2561 แนวโน้มสดใส รับดีมานด์ทะลัก แถมปักเป้าปีนี้รายได้ตามฝันโต 5% จากปีก่อน รับพอร์ตลูกค้า บิ๊ก "สาธิต" ยิ้มรับโครงการภาครัฐ หนุนตลาดวัสดุก่อสร้างคึกคัก พร้อมเดินหน้าขยายฐาน CLMV อัพฐานเพิ่ม

ทั้งนี้ ปัจจุบันสัดส่วนรายได้ของบริษัท แบ่งเป็นการผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าให้กับลูกค้าในประเทศประมาณ 83% ส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศอีกราว 17% รวมทั้งธุรกิจยังมีแนวทางทำตลาดในแถบ CLMV ให้มากขึ้น หลังแนวโน้มความต้องการในส่วนดังกล่าวเติบโตต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนยอดการส่งออกให้ขยายตัวด้วย

ปีนี้รายได้โต 5%  สำหรับผลประกอบการปี 2561 บริษัทประเมินรายได้คงเป็นตามเป้าหมายที่ตั้งไว้เพิ่มขึ้น 5% จากปีก่อนที่ 4.18 พันล้านบาท ผลมาจากธุรกิจมีการขยายช่องทางจัดจำหน่ายในส่วนห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่ที่มีอัตราเติบโตที่ดี หลังผู้ประกอบการส่วนใหญ่มีการลงทุนขยายสาขาใหม่อย่างต่อเนื่อง นอกเหนือจากการทำตลาดใหม่ๆ ในต่างประเทศเพิ่มเติม ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนสนับสนุนให้ภาพรวมธุรกิจเป็นไปตามที่วางไว้

อย่างไรก็ดี ในปีนี้ทาง DRT เชื่อว่าจะสามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้นไว้ที่ 25-27% ได้ หลังจากบริษัทได้มีการปรับราคาขายสินค้าเฉลี่ยในปีนี้ขึ้น 3-4% สะท้อนราคาวัตถุดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับบริษัทมีการบริหาร Product Mix เพื่อบริหารสัดส่วนการขายสินค้าที่มีอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และบริหารจัดการต้นทุนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย

จ่ออัพกำลังผลิตเพิ่ม นอกจากนี้ บริษัทเตรียมประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) เพื่อพิจารณาแผนการลงทุนขยายกำลังการผลิตหลังคาคอนกรีตและโครงหลังคาสำเร็จรูป (Truss) เพิ่มเติม หลังจากกำลังการผลิตหลังคาคอนกรีตในปัจจุบันมีอัตราการเดินเครื่องจักรเกือบเต็ม 100% ประกอบกับบริษัทมีแผนการขยายตลาดผลิตภัณฑ์หลังคาคอนกรีตและโครงหลังคาสำเร็จรูป ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ภายใต้กลยุทธ์ "สวยครบเซต ตราเพชรทั้งหลัง" เพื่อผลักดันการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และตอบสนองความต้องการใช้สินค้าจากกลุ่มลูกค้าโครงการและบ้านที่ปลูกสร้างโดยผู้รับเหมารายย่อย คาดน่าจะเห็นความชัดเจนในเดือนพฤศจิกายนนี้

สำหรับการขยายกำลังการผลิตดังกล่าวนั้นจะเป็นการรับผลิตภัณฑ์หลังคาคอนกรีต CT เพชร รุ่นเวนิส (CT Venice) ที่มีจุดเด่นด้านรูปลอนโค้งสไตล์อิตาลี และโทนสีแบบ Tri Tone Color หรือ 3 เฉดสีในแผ่นเดียว เพื่อทำตลาดภายในประเทศไทย ซึ่งจะเป็นฐานในการผลิต เพื่อส่งออกไปต่างประเทศเพิ่มเติมในอนาคต

จุดแข็งในการดำเนินธุรกิจของ DRT หรือ "ตราเพชร" คือมีผลิตภัณฑ์และช่องทางการจัดจำหน่ายที่หลากหลาย รวมถึงการบริหารพอร์ตสินค้า ในกลุ่มวัสดุก่อสร้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ บริษัท จึงสามารถรักษาอัตราการทำกำไรขั้นต้นอยู่ในเกณฑ์ที่ดี     

 

ที่มา: หนังสือพิมพ์ทันหุ้น

6 พฤศจิกายน 2561