แบงก์เร่งปล่อยกู้บ้านก่อนคุมเข้ม

แบงก์เร่งปล่อยกู้บ้านก่อนคุมเข้ม

น.ส.ภาคนี วิริยะรังสฤษฎ์ ประธานจัดงานร่วม งานมหกรรมการเงิน มันนี่ เอกซโป เชียงใหม่ 2018 เปิดเผยว่า จากที่ได้จัดงานมันนี่เอกซโปเชียงใหม่รวม 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 9-11 พ.ย. 61 ปรากฏว่ามียอดธุรกรรมการเงินการลงทุนรวม 12,000 ล้านบาท จากผู้สมัครใช้บริการ 27,000 ราย ส่วนใหญ่มาจากสถาบันการเงินแข่งขันปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัย โดยออกโปรโมชั่นดอกเบี้ย 0% และรู้ผลอนุมัติทันที รวมถึงยังยกเว้นค่าธรรมเนียมประเมินราคา ค่าจดจำนอง ค่าธรรมเนียมการยื่นกู้ ทั้งสินเชื่อบ้านและรีไฟแนนซ์เป็นเงินตลอดงาน 8,300 ล้านบาท ซึ่งเป็นการแข่งขันกระตุ้นสินเชื่อบ้านของสถาบันการเงินในช่วงปลายปี ก่อนมาตรการกำกับสินเชื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)จะมีผลบังคับใช้ 1 เม.ย. 62

นอกจากนี้สถาบันการเงินยังมีแคมเปญ รีไฟแนนซ์บ้านอัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นพิเศษเฉลี่ย 3 ปีแรก 2.85% ต่อปี ช่วยให้ผู้กู้มีภาระผ่อนบ้านต่อเดือนลดลง ขณะเดียวกันภายในงานยังมีสินเชื่อ เอสเอ็มอี รวมวงเงินกว่า 1,100 ล้านบาท โดยมีแคมเปญอัตราดอกเบี้ยพิเศษสำหรับเจ้าของธุรกิจที่ยื่นขอกู้ภายในงาน เช่น อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ต่ำสุด 4% ต่อปี และให้วงเงินกู้สูงสุดถึง 100 ล้านบาท มีระยะเวลาผ่อนชำระนานสูงสุดถึง 10 ปี ส่วนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ใช้ระบบบัญชีเดียวจะได้รับอัตราดอกเบี้ยต่าเป็นพิเศษเพียง 1% ต่อปีเท่านั้น โดยมีประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียงเดินทางมาใช้บริการทางการเงินและการลงทุนเป็นจำนวนมากกว่า 70,000 ราย

ขณะที่สถาบันการเงินยังได้นำแอพพลิเคชั่น ทางการเงินที่ได้เปิดตัวใหม่ล่าสุดเพื่อการใช้ชีวิตในยุคดิจิทัลมาโปรโมตภายในงาน ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมงาน เช่น ธนาคารกรุงไทย เปิดตัวแอพพลิเคชั่น กรุงไทย เน็กซ์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดตัวจีเอชบี ออลล์ แอพพลิเคชั่นที่รวมทุกบริการของ ธอส. เช่น ชำระเงินกู้ โอนเงิน ดูใบเสร็จค่าบ้าน และจองคิวใช้บริการที่สาขา และธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ที่ปรับปรุงให้ลูกค้าได้รับความสะดวกด้านบริการทางการเงินมากขึ้น เป็นต้น

ด้านนางธีรนุช ขุมทรัพย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ พัฒนาผลิตภัณฑ์ธุรกิจลูกค้ารายย่อย ธนาคารธนชาต กล่าวว่า ลูกค้าที่มีแผนต้องการซื้อบ้านควรตัดสินใจซื้อในช่วงนี้ ก่อนจะมีการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเรื่องของดอกเบี้ยนโยบายหรือมาตรการอื่น ๆ ที่ทางราชการอาจมีเพิ่มเติมในอนาคต

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

15 พฤศจิกายน 2561