จีนทิ้งดาวน์อสังหา

จีนทิ้งดาวน์อสังหา

อสังหาฯ ชี้กลุ่มลูกค้าชาวจีนน่าห่วงส่อทิ้งดาวน์ เหตุเงินหยวน อ่อนค่า ปัญหาสงครามการค้าสหรัฐ-จีน ไม่คุ้มค่าซื้อลงทุน

นายสุรเชษฐ กองชีพ นักวิจัยตลาดอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ตลาดคอนโดมิเนียมที่ผู้ประกอบการพยายามหากลุ่มลูกค้าต่างชาติมาซื้อ โดยเฉพาะชาวจีน จะประสบปัญหากลุ่มผู้ซื้อดังกล่าวทิ้งเงินดาวน์ เนื่องจากผลตอบแทนที่ได้ไม่คุ้มค่ากับการลงทุน ประกอบกับค่าเงินหยวนอ่อนค่าตั้งแต่ช่วงกลางปี 2561 จาก 5 บาท เหลือ 4.60 บาท/หยวน รวมไปถึงปัญหาสงครามการค้าสหรัฐกับจีนอาจส่งผลให้เหตุการณ์รุนแรงขึ้น เนื่องจากกลุ่มผู้ซื้อเป็นนักลงทุน

นอกจากนี้ ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา มีนายหน้าหรือกลุ่มนักลงทุนชาวจีน รวมตัวกันเพื่อจัดตั้งบริษัทเข้ามาซื้อคอนโด ในกรุงเทพฯ แบบบิ๊กล็อต เพื่อนำไปขายต่อหรือนำไปทำตลาดในประเทศจีนและประเทศอื่นๆ ที่มีกลุ่มผู้ซื้อสัญชาติจีน โดยอาจได้ราคาพิเศษจากผู้ประกอบการไทย เพราะซื้อเป็นจำนวนมาก รวมทั้งคอนโดไทยยังราคาต่ำสามารถไปขายทำกำไรได้

ด้าน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยผลการประชุมร่วมกันระหว่างคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) และคณะกรรมการนโยบายสถาบันการเงิน (กนส.) เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งที่ประชุมแสดงความเป็นห่วงความเปราะบางที่จะ มีนัยต่อเสถียรภาพระยะต่อไป โดยให้ ความสำคัญ 2 ประเด็นหลัก คือ 1.ภาคอสังหาริมทรัพย์ยังต้องติดตามมาตรฐานการปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ ความสามารถชำระหนี้ของครัวเรือน อุปสงค์จากต่างชาติโดยเฉพาะจีนที่อาจชะลอลง และอุปทานจากโครงการอสังหาฯ แบบผสมหรือมิกซ์ยูส ที่จะเร่งขึ้นในอนาคต

สำหรับความเป็นห่วงเรื่องที่ 2 คือพฤติกรรมการแสวงหาผลตอบแทนที่สูงขึ้น (Search for Yield) หรือการเก็งกำไร ซึ่งอาจนำไปสู่การประเมินความเสี่ยงต่ำกว่าที่ควร โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับสหกรณ์ออมทรัพย์และกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่

ทั้งนี้ ยังต้องติดตามความเสี่ยงจากภาวะอุปทานคงค้างในตลาดอสังหาฯ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาอุปสงค์จากต่างชาติ โดยเฉพาะจีนมีบทบาทเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในอาคารชุด จึงต้องระมัดระวังความเสี่ยงที่อุปสงค์ในส่วนนี้อาจลดลง หากเศรษฐกิจจีนชะลอตัวลง ขณะที่อุปทานพื้นที่อาคารสำนักงานและพื้นที่ค้าปลีกมีแนวโน้มเร่งขึ้นจากโครงการมิกซ์ยูส โดยเฉพาะตั้งแต่ช่วงปี 2563 เป็นต้นไป ที่ประชุมจึงเห็นควรให้ติดตามพัฒนาการของการแข่งขันตลาดสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและภาวะอุปทานคงค้างในตลาดอสังหาฯ ต่อไป

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

27 ธันวาคม 2561