การท่าเรือฯ ปั้น ‘คลองเตย’ ขึ้นแท่นแลนด์มาร์กใหม่ของกรุงเทพฯ

การท่าเรือฯ ปั้น ‘คลองเตย’ ขึ้นแท่นแลนด์มาร์กใหม่ของกรุงเทพฯ

ในช่วงที่ผ่านมาจะเห็นภาพภาครัฐหันมาพัฒนาโครงการบนที่ดินของตัวเองมากขึ้น และล่าสุดกับการท่าเรือแห่งประเทศไทยเตรียมเปิด ‘โครงการพัฒนาพื้นที่เพื่อที่อยู่อาศัยในชุมชนคลองเตย (Smart Community)’ เพื่อแก้ปัญหาความแออัดชุมชนคลองเตยที่เข้ามาอาศัยในพื้นที่การท่าเรือฯ และผลักดันให้ ‘คลองเตย‘ กลายเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ

ทางรัฐบาลได้มีนโยบายให้การท่าเรือฯ นำที่ดิน 2,353 ไร่ มาเปิดให้เอกชนร่วมลงทุนพัฒนาเชิงพาณิชย์เพิ่มรายได้ให้กับองค์กรในระยะยาว ระยะเวลา 30 ปี โดยตั้งเป้าจะเริ่มประมูลภายในปี 2562 เริ่มจากที่ดิน 17 ไร่ อยู่ติดอาคารสำนักงานของการท่าเรือฯ มูลค่าโครงการ 5,400 ล้านบาท สอดคล้องกับผังเมืองรวมกรุงเทพมหานครฉบับใหม่ ที่จะประกาศใช้ไม่เกินต้นปี 2563 ได้ปรับการใช้ประโยชน์ที่ดินย่านคลองเตยจากพื้นที่สีน้ำเงิน ที่ดินสำหรับสถานที่ราชการ เป็นพื้นที่สีแดง ที่ดินประเภทพาณิชยกรรม ทำให้สามารถนำที่ดินดังกล่าวมาพัฒนาได้อย่างเต็มที่ และทำให้มูลค่าโครงการเพิ่มขึ้น

จากศักยภาพที่ดินที่อยู่ติดแม่น้ำ และมีเนื้อที่ขนาดใหญ่ รูปแบบการพัฒนาจะเป็นโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่โดยจะยกระดับให้เป็นแลนด์มาร์กใหม่ของกรุงเทพฯ คล้ายกับโครงการไอคอนสยาม ซึ่งในเบื้องต้นคาดว่าจะมีโครงการที่อยู่อาศัย โรงแรม สำนักงาน ศูนย์การค้า ดิวตี้ฟรี ท่าเรือครุยส์ และมีรถไฟฟ้าโมโนเรลเชื่อมการเดินทางจากโครงการบริเวณ ถ.โรงฟอกหนัง ไปตามแนว ถ.กล้วยน้ำไท ถ.พระราม 4 เชื่อมกับรถไฟฟ้า MRT สถานีคลองเตย ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ส่วนคอนโดมิเนียมจะพัฒนาบนพื้นที่ขององค์การฟอกหนังเดิม เนื้อที่ 58 ไร่ เป็นอาคารสูง 25 ชั้น จำนวน 4 อาคาร ขนาด 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 33 ตารางเมตร รองรับการอยู่อาศัยได้ 6,144 ครัวเรือน

ขณะเดียวกันการท่าเรือฯ อยู่ระหว่างดำเนินการย้ายชุมชนคลองเตยที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ 197 ไร่ จำนวน 26 ชุมชน ประมาณ 12,500 ครัวเรือน ออกจากพื้นที่เพื่อนำที่ดินมาพัฒนาท่าเทียบเรือแห่งใหม่ทั้งเพื่อการท่องเที่ยวและขนส่ง โดยจะมี 3 ตัวเลือกให้ชุมชนคลองเตย ได้แก่

ย้ายมาอยู่อาศัยที่อาคารชุด ตั้งอยู่บริเวณ ซ.ตรีมิตร ติดถนนริมทางรถไฟสายเก่า ด้านหลังติดริมคลองพระโขนง

ย้ายไปอยู่บนที่ดินที่การท่าเรือฯ จัดหาให้ คือ บริเวณหนองจอก จำนวน 2,140 แปลง หรือ 214 ไร่ จำกัด 1 ครัวเรือนต่อที่ 1 แปลง แปลงละ 19.5 ตารางวา

มอบเงินทุนสำหรับกลับไปอาศัยที่ภูมิลำเนาเดิม แต่ยังไม่สรุปตัวเลขที่จะต้องใช้ เพราะต้องสำรวจความต้องการก่อน

ทั้งนี้ จากรายงานของ DDproperty Property Index รอบล่าสุด พบว่า เขตคลองเตยมีอุปทานที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีอุปทานถึง 12% ของจำนวนที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ ทั้งหมด มากเป็นอันดับที่ 2 รองจากเขตวัฒนา ส่วนใหญ่อยู่ในแขวงคลองตัน คิดเป็น 43% ของอุปทานทั้งหมดในเขตคลองเตย โดยประเภทที่อยู่อาศัยที่มากที่สุดคือ คอนโดมิเนียม มีจำนวนถึง 13% ของคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ ทั้งหมด ส่วนใหญ่อยู่ในแขวงคลองตัน มีจำนวนถึง 44% ของคอนโดมิเนียมในเขตคลองเตยทั้งหมด ราคาที่อยู่อาศัยส่วนใหญ่ในอยู่ในช่วง 5 ล้านบาทขึ้นไป มีจำนวนถึง 79%

แม้ว่าโครงการดังกล่าวยังคงต้องทำการสำรวจความคุ้มค่าและประเมินให้รอบด้าน แต่เชื่อว่าการพัฒนาพื้นที่คลองเตยจะสร้างเม็ดเงินให้กับการท่าเรือฯ และช่วยยกระดับคลองเตยให้กลายเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ

 

ที่มา : ddproperty

22 มกราคม 2562