EMC คว้าประมูล “โครงการบ้านไทยประชารัฐ” จ.เชียงใหม่

EMC คว้าประมูล “โครงการบ้านไทยประชารัฐ” จ.เชียงใหม่

EMC ประกาศชนะประมูล “โครงการบ้านไทยประชารัฐ” จ.เชียงใหม่ โครงการที่อยู่อาศัยตามนโยบายรัฐบาล มูลค่า 822 ล้านบาท “รัฐชัย ภิชยภูมิ” บอสใหญ่ เป็นปลื้ม ลั่นดันผลงานโตก้าวกระโดดในปี 2562 ขณะที่งวดปี2561 มีแนวโน้มตัวเลขสวย รับอานิสงส์ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์สดใส

นายรัฐชัย ภิชยภูมิ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการเงิน บริษัท อีเอ็มซี จำกัด (มหาชน) หรือ EMC เปิดเผยว่า กิจการร่วมค้าที่จัดตั้งขึ้นโดย EMC ถือหุ้น 51% และ บริษัท เชียงใหม่รายวัน จำกัด ถือหุ้น 49% เป็นผู้ชนะประมูลงาน “โครงการบ้านคนไทยประชารัฐ” มูลค่า 822 ล้านบาท โดยโครงการบ้านคนไทยประชารัฐ เป็นโครงการที่อยู่อาศัยตามนโยบายของรัฐบาล ในที่ดินราชพัสดุ ตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เนื้อที่ประมาณ 15 ไร่  ซึ่งกิจการร่วมค้าดังกล่าวจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างตามแผนงานที่วางไว้ และสนับสนุนให้ผลการดำเนินงานของ EMC เติบโตแบบก้าวกระโดดได้ในปี 2562

นายรัฐชัย กล่าวต่อว่า สำหรับผลการดำเนินงานงวดปี 2561 ที่จะสิ้นสุด 31 ธันวาคม 2561 นั้น คาดมีกำไรสุทธิ จากปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิจากการดำเนินงาน 673.76 ล้านบาท เนื่องจากธุรกิจรับเหมาก่อสร้างและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผลการดำเนินงานของ EMC เริ่มมีกำไรสุทธิตั้งแต่ไตรมาส 2/2561 ต่อเนื่องมายังไตรมาส 3/2561 และมีแนวโน้มว่าจะดีต่อเนื่องถึงไตรมาส 4/2561 เช่นเดียวกัน ซึ่งผลการดำเนินงานโดยรวมในงวด 9 เดือนแรกของปี 2561 ปรากฏว่า EMC มีกำไรสุทธิ 71.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 110.77% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 664.27 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม EMC ยังเดินหน้าพัฒนาโครงการใหม่ๆ ให้ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งในส่วนของการพัฒนาโครงการของ EMC ปัจจุบัน เช่น งานโรงพยาบาลผู้สูงอายุบางขุนเทียน ของกรุงเทพมหานคร มูลค่าโครงการประมาณ 3,000 ล้านบาท โครงการคอนโดมิเนียมย่านทองหล่อ มูลค่าโครงการกว่า 900 ล้านบาท รวมทั้งการเพิ่มช่องทางการประมูลงานก่อสร้าง ทั้งงานภาครัฐและภาคเอกชน, การจัดหาสถานที่ที่เหมาะสมเพื่อก่อสร้างโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์, มุ่งเน้นบริหารจัดการและบริหารพื้นที่เช่าและที่พักอาศัย โครงการมหาชัยและโครงการสเตชั่นวัน รวมทั้งการลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายในทุกๆ ด้าน จนสามารถสร้างผลกำไรได้ดีขึ้น ทำให้มั่นใจว่าจะทำให้ส่วนผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นและมีแนวโน้มที่จะได้รับการถอนเครื่องหมาย C เร็วๆ นี้

 

ที่มา : preeya tednok

29 มกราคม 2562