สงกรานต์ รับรายได้พลาดเป้าเบนเข็มจับไฮเอนด์ขายง่ายขึ้น

สงกรานต์ รับรายได้พลาดเป้าเบนเข็มจับไฮเอนด์ขายง่ายขึ้น

          ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ เผยตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 2563 ทรงตัวตามภาวะเศรษฐกิจ เตือนระมัดระวังสภาพคล่อง ยอมรับปี 2562 รายได้กำไรพลาดเป้า เบนเข็มจับตลาดไฮเอนด์ เพื่อให้ขายง่าย ล่าสุดเปิดตัวลักชัวรีคอนโด “ดิ อิสสระ สาทร” มูลค่า 2,400 ล้าน

          นายสงกรานต์ อิสสระ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปี 2562 รายได้ของบริษัทจะต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่อัตราเติบโต 15% เนื่องจากเผชิญความท้าทายในภาคอสังหาริมทรัพย์ ไม่ต่างกับผู้ประกอบอสังหาริมทรัพย์รายอื่น จากเศรษฐกิจชะสอตัว ส่งผลให้กำลังซื้อชะลอตัวตาม และมาตรการคุมเข้มสินเชื่ออสังหาฯ (LTV) ที่กระทบต่อการขาย การโอนโครงการ ขณะที่รายได้จากโรงแรมศรีพันวาลดลง จากค่าเงินบาทที่แข็งค่า ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติชะลอการเดินทางเที่ยวไทย โดยผลการดำเนินงานของบริษัทในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา พบว่าขาดทุน 200 ล้านบาท นอกจากจะเกิดจากการขายและการโอนโครงการที่ชะลอตัวแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น จากการปรับปรุงโครงการในศรีพันวา จ.ภูเก็ต ทั้งการปรับปรุงวิลล่า และห้องประชุมในโรงแรม ปรับปรุงและก่อสร้างเพิ่มเติมโครงการทิวทะเล หัวหิน ทำให้ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ซึ่งในไตรมาสสุดท้ายของปี2562 บริษัทยังลุ้นว่าจะสามารถพลิกกลับมีกำไรได้ จากการโอนโครงการแนวราบระดับลักชัวรี 2 โครงการ คือ บ้านอิสสระ พระราม 9 และบ้านอิสสระ บางนา ที่จะทยอยโอนในไตรมาส 4 ปี 2562

          ส่วนกลยุทธ์การพัฒนาโครงการและการขายของบริษัทจะหันมาเน้นจับกลุ่มลูกค้าระดับบนและระดับลักชัวรีมากขึ้น เพราะเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง โดยเริ่มจากการเปิดโครงการคอนโดมิเนียม ดิ อิสสระ สาทร มูลค่า 2,400 ล้านบาท เป็นโครงการคอนโดมิเนียมไฮไรส์ สูง 37 ชั้น จำนวน 270 ยูนิต จะเริ่มก่อสร้างในปี 2563 หลังจากที่เตรียมยื่นขอวิเคราะห์ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม (EIA) และคาดว่าโครงการจะแล้วเสร็จในปี 2565 ราคาเริ่มต้น 4.88 ล้านบาท ตั้งอยู่บนพื้นที่ประมาณ 1-2-60 ไร่ บริเวณถนนจันทน์-สาทร มีขนาดพื้นที่ห้องเริ่มต้น 32.75-188 ตารางเมตร

          นายสงกรานต์ กล่าวอีกว่า แนวโน้มอสังหาฯ ปี 2563 ประเมินว่าตลาดทรงตัว ตามภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวตามวัฏจักรต่อเนื่อง หลังจาก 2-3 ปีที่ผ่านมาซัพพลายออกมามาก กำลังซื้อน้อยลง และเศรษฐกิจที่เติบโต 3-4% มาจากการส่งออกเป็นหลัก สิ่งที่ต้องระมัดระวังมากที่สุดในการทำธุรกิจคือสภาพคล่อง ในส่วนของบริษัทหากไม่มั่นใจจะไม่ลงทุนพัฒนาโครงการเพิ่ม ยกตัวอย่าง โครงการหัวหิน ชะอำ จะต้องเป็นทำเลที่ติดทะเลเท่านั้นจึงจะทำ นอกจากนี้ บริษัทเลือกที่จะทำพรีเมียมโปรดักต์ เพื่อให้ขายได้ง่าย ไม่ใช่ทำแล้วขายไม่ได้ จึงต้องเลือกทำเลที่ใช่ และตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่ขายได้แน่นอน ยกตัวอย่างโครงการ ดิ อิสสระ สาทร แทนที่จะเป็นซูเปอร์ลักชัวรี ปรับมาเป็นไฮเอนด์ แทน

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์ดอกเบี้ยธุรกิจ

16 ธันวาคม 2562