เปิดจองคอนโด9.9แสนดบ.3% ธนารักษ์เร่งปั๊มรายได้เข้าคลัง

เปิดจองคอนโด9.9แสนดบ.3% ธนารักษ์เร่งปั๊มรายได้เข้าคลัง

         ธนารักษ์เปิดจอง "คอนโดฯข้าราชการ" 5 จังหวัด ดีเดย์ ส.ค.นี้ ยูนิตละ 999,999 บาท เงินเดือน 1.6 หมื่นซื้อได้ครองสิทธิ 30 ปี ครบ 5 ปี โอนเปลี่ยนมือได้ ดึง ธอส.ปล่อยกู้ ดบ.ไม่เกิน 3% เร่งปั๊ม รายได้ส่งคลัง ตั้งเป้าปีงบประมาณ 2563 ทะลุหมื่นล้าน ลุยจัดระเบียบ ที่ราชพัสดุ ต้อนรีสอร์ตเถื่อนเกาะเต่า-สวนผึ้ง-แหลมฟ้าผ่า ปักธงปีหน้ากวาดผู้บุกรุก 2.5 แสนรายเข้าระบบ

          นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ในเดือนส.ค.นี้กรมธนารักษ์และสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) จะเปิดให้ข้าราชการพลเรือนสามัญที่มีอยู่ทั้งสิ้นราว 4 แสนราย สามารถจองซื้อสิทธิการเช่าคอนโดมิเนียมข้าราชการ ที่จะก่อสร้างบนที่ราชพัสดุนำร่องใน 9 พื้นที่ ประกอบด้วยพื้นที่ในกรุงเทพมหานคร 3 แห่ง ได้แก่ แถวถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ช่องนนทรี และสุขุมวิท 61 ในจังหวัดนนทบุรี 3 แห่ง ได้แก่ ในซอยวัดกู้ ตรงข้ามศาลากลางจ.นนทบุรี และย่านอำเภอปากเกร็ด ในจังหวัดนครราชสีมา 1 แห่ง ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี 1 แห่ง และในจังหวัดขอนแก่นอีก 1 แห่ง

          ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวกรมได้สั่งการให้บริษัทธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ (ธพส.) เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างบนที่ราชพัสดุที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ แต่ละแห่งเนื้อที่ราว 1 ไร่ ทำเลตั้งอยู่ในเมือง เดินทางสะดวก โดยก่อสร้างเป็นคอนโดฯ 7 ชั้น แต่ละโครงการมี 76 ห้อง ห้องละไม่เกิน 40 ตารางเมตร ราคา 999,999 บาท

          นอกจากนี้พื้นที่เป้าหมาย 9 แห่งแรก กรมยังจะอยู่ระหว่างจัดหาพื้นที่ที่เหมาะสมทั่วประเทศเพื่อมาจัดทำโครงการดังกล่าวเพิ่มเติมด้วย ขณะที่เฟส 2 อาจจะสร้างเป็นอาคารสูงประมาณ 20 ชั้น ซึ่งจะต้องมีการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ด้วย แต่เฟสแรกที่สร้างแค่ 7 ชั้น ไม่ต้องผ่าน EIA

          ขณะเดียวกันกรมยังเร่งดำเนินการก่อสร้างโครงการซีเนียร์คอมเพล็กซ์ที่จ.สมุทรปราการเพื่อตอบโจทย์สังคมผู้สูงวัย โดยวางเป้าหมายเปิดให้ผู้สูงวัยอายุ 58 ปีขึ้นไป เริ่มจองได้ภายในสิ้นปี 2563 นี้ เฟสแรกจำนวน 900 ยูนิต ราคาไม่เกิน 1.9 ล้านบาท พื้นที่ยูนิตละประมาณ 35 ตารางเมตร ซึ่งจะใช้เวลาก่อสร้างราว 2 ปี เข้าอยู่ได้เมื่อผู้จองมีอายุ 60 ปีขึ้นไป

          นายยุทธนากล่าวอีกว่า จากสถานการณ์โควิด-19ส่งผลต่อการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลในปีงบประมาณ 2563 อย่างไรก็ดีในส่วนของกรมธนารักษ์คาดว่าจะนำส่งรายได้เข้ารัฐได้มากกว่า 1 หมื่นล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 8,500 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการจัดระบบที่ราชพัสดุใหม่ โดยดึงพวกที่อยู่นอกระบบเข้ามาเช่า และจัดให้ผู้ที่มีการใช้ที่ราชพัสดุผิดวัตถุประสงค์ให้จ่ายค่าเช่าตามลักษณะการใช้ประโยชน์ที่ดิน ทั้งนี้ ปัจจุบันได้จัดระบบที่ราชพัสดุที่ใช้ผิดวัตถุประสงค์ให้ถูกต้องแล้วกว่า 70% โดยกรมได้ตั้งทีมติดตามเข้าไปดูพื้นที่ที่มีการใช้ที่ราชพัสดุผิดประเภท เช่น เช่าเพื่อทำการเกษตรแต่กลับนำไปทำรีสอร์ต เป็นต้น ซึ่งจะทำให้ได้ค่าเช่าเพิ่มขึ้น จากที่เคยได้แค่ 200 บาท ก็อาจจะเป็น 1 หมื่นบาท

          นอกจากนี้กรมตั้งเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนการบริหารที่ราชพัสดุ ทั้งในเชิงพาณิชย์เพื่อหารายได้ และเชิงสังคมเป็น 10% จากปัจจุบันยังมีสัดส่วนแค่ 4% จากที่ราชพัสดุทั่วประเทศ 12.5 ล้านไร่ ซึ่งอยู่ในมือส่วนราชการถึง 96%

          ในงบประมาณปี 2564 กรมจะเน้นโครงการธนารักษ์ประชารัฐ หรือการจัดเช่าที่ราชพัสดุ โดยเร่งจัดระเบียบที่มีการบุกรุกให้เข้าสู่ระบบให้ได้ทั้งหมดทั่วประเทศ จากที่มีการบุกรุกอยู่ทั้งสิ้นราว 2.5 แสนราย จากเดิมที่ต้องใช้เวลานานถึง 10 ปี เพราะทำได้แค่ปีละประมาณ 5,000-6,000 ราย

          ที่ผ่านมาได้ให้ส่วนราชการที่มีการจัดให้เช่าที่ราชพัสดุดำเนินการให้ถูกต้อง เช่น กรณีมีการเปิดสถานเสริมความงามในโรงพยาบาล ปัจจุบันคิดว่ากว่า 90% เข้ามาอยู่ในระบบถูกต้องแล้ว

          ส่วนที่ราชพัสดุที่อยู่ในความครอบครองของกองทัพก็อยู่ระหว่างการดำเนินการ เช่น จังหวัดกาญจนบุรีที่มีอยู่ราว 3 ล้านไร่ จังหวัดราชบุรีมีอยู่ 5 แสนไร่ ซึ่งพบว่าบางส่วนถูกบุกรุกอยู่ เช่น ที่ราชบุรีถูกบุกรุกอยู่ราว 1.2-1.3 แสนไร่ ซึ่งได้ทำความตกลงกันแล้วจะมีการจัดให้เช่าให้ถูกต้อง

          ด้านสวนสนประดิพัทธ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ไปแล้ว ซึ่งทางกองทัพจ้างดุสิตธานีเข้ามาบริหาร และกรมธนารักษ์เก็บค่าเช่าจากผลประกอบการ 50% ส่วนสนามมวยลุมพินี เพราะเป็นช่วงโควิด ผลประกอบการไม่สะท้อนภาวะปกติ จึงอาจต้องใช้ผลประกอบการเฉลี่ย  3-5 ปี มาคิดอัตราค่าเช่า ขณะที่ในอำเภอสวนผึ้ง ก็มีการใช้ประโยชน์ผิดวัตถุประสงค์ เช่น ทำรีสอร์ต เป็นต้น ก็ต้องเข้าไปจัดการให้ถูกต้อง ตลอดจนที่ราชพัสดุบนเกาะเต่า อำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี และแหลมฟ้าผ่า จังหวัดจันทบุรี นอกจากนี้ยังมีที่จังหวัดเชียงใหม่ ที่ราชพัสดุที่ได้คืนจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่กรมนำมาจัดให้เช่าไร่ละ 50 บาท เพื่อทำการเกษตร

          ทั้งนี้ ตามกฎหมายที่ราชพัสดุฉบับปรับปรุงใหม่ กรมธนารักษ์มีภารกิจที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากกฎหมายกำหนดรัฐวิสาหกิจต้องจ่ายค่าเช่าที่ราชพัสดุด้วยจากเดิมไม่ต้องจ่าย ทำให้ตอนนี้มีรัฐวิสาหกิจบางแห่งเริ่มมาหารือเพื่อขอคืนที่ราชพัสดุ เช่น การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ที่ขอคืนพื้นที่หลายแสนไร่ เป็นต้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า การใช้ที่ราชพัสดุต้องเป็นไปตามวัตถุประสงค์อย่างแท้จริง

          สำหรับแนวคิดเรื่องค่าถือครองที่ดินนั้น อธิบดีกรมธนารักษ์กล่าวว่า จะเริ่มใช้ในปีงบประมาณ 2564 จัดทำขึ้นเพื่อให้ส่วนราชการได้รับรู้ว่า ที่ดินราชพัสดุที่ครอบครองอยู่นั้น มีต้นทุนอย่างไร และใช้ประโยชน์ได้อย่างคุ้มค่า เกิดประโยชน์สูงสุดหรือไม่

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ

วันที่ : 22 กรกฎาคม 2563