คอลัมน์ KNOWING: กรุงศรีพัฒนาแอพสินเชื่อบ้าน

คอลัมน์ KNOWING: กรุงศรีพัฒนาแอพสินเชื่อบ้าน

ธุรกิจสินเชื่อบ้านกรุงศรี เดินหน้าพัฒนา ดิจิทัลโซลูชั่น ตอบโจทย์พฤติกรรมและความต้องการของลูกค้า สร้างแอพพลิเคชั่น ให้พนักงานขายและสาขาทั่วประเทศ เพื่อเป็นเครื่องมือในการให้คำปรึกษาแก่ลูกค้าเรื่องสินเชื่อบ้านได้อย่างครบถ้วน แม่นยำและถูกต้อง ง่ายต่อการตัดสินใจ

ณัฐพล ลือพร้อมชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ธ.กรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า สินเชื่อบ้านนั้น มีรายละเอียดและความละเอียดอ่อนมากกว่า สินเชื่อประเภทอื่นๆ ทั้งในเรื่องราคา อัตราดอกเบี้ย หรือหลักประกัน กรุงศรีเชื่อมั่นว่าการมุ่งพัฒนาแอพให้ลูกค้าสามารถยื่นขอสินเชื่อผ่านช่องทางดิจิทัลด้วยตนเองยังไม่ใช่โจทย์ความต้องการในระดับต้นๆของลูกค้า กรุงศรีจึงทำงานบนพื้นฐานของความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า (Customer Insight) ซึ่งระบุชัดเจนว่าที่ปรึกษาที่สามารถให้ข้อมูลที่ถูกต้อง แม่นยำ และครบถ้วน เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจเป็นเรื่องสำคัญมากที่จะเลือกใช้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ดังนั้น การพัฒนาเครื่องมือที่ทำให้พนักงานขายสามารถเป็นที่ปรึกษาให้ข้อมูล และตอบทุกๆข้อซักถามของลูกค้าได้ชัดเจน พร้อมทั้งนำเสนอตัวเลือกที่ดีที่สุดคือข้อได้เปรียบสำคัญ สร้างประสบการณ์การใช้ สินเชื่อบ้านกรุงศรีที่ดีขึ้นให้กับลูกค้า โดยเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะสมเข้ามาประยุกต์ใช้

ทั้งนี้ ในระยะแรกเน้นในเรื่อง High Tech และ High Touch โดยการพัฒนาแอพสำหรับพนักงานขายทุกคน สามารถคำนวณข้อมูลสินเชื่อ ระยะเวลาการผ่อนชำระ รูปแบบการผ่อนชำระ อัตราดอกเบี้ย หรือกระทั่งในระยะ 3 หรือ 5 ปี ลูกค้าชำระดอกเบี้ยไปแล้วกี่บาท และสามารถแชร์ข้อมูลดังกล่าวให้ลูกค้าได้ทันทีผ่านทางไลน์ อีเมล หรือช่องทางออนไลน์อื่นๆ ซึ่งปัจจุบันพนักงานขายสินเชื่อบ้านและพนักงานสาขาเริ่มใช้แล้ว และจะใช้ทั่วประเทศเพื่อสื่อสารกับลูกค้าในเร็วๆ นี้

นอกจากนี้ ระบบจะทำการแจ้งเตือน พนักงานขายทุกครั้งที่สถานะการขอสินเชื่อของลูกค้าเปลี่ยน ดังนั้น พนักงานจะสามารถแจ้ง ความคืบหน้าลูกค้าได้ทันที ในระยะที่ 2 กรุงศรีอยู่ในระหว่างการพูดคุยกับดีเวลลอปเปอร์พันธมิตร และผู้พัฒนาเว็บไซต์ข้อมูลเรื่องอสังหาฯ โดย กรุงศรีจะนำดิจิทัลโซลูชั่นขยายให้กับพันธมิตร เพื่อนำเทคโนโลยีมาใช้อำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น โดยเปิด API ให้พันธมิตรธุรกิจสามารถเชื่อมต่อและใช้เครื่องมือต่างๆ เช่น เครื่องมือในการคำนวณสินเชื่อ รูปแบบต่างๆ เพื่อให้ลูกค้าทราบวงเงินกู้ที่คาดว่าจะได้รับ หรือวางแผนการ ซื้อบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก่อนที่จะนำ Big Data และ Robotic Process Automation (RPA) มาใช้เพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและให้บริการลูกค้า ขณะที่แผนระยะท้ายสุดคือ มุ่งสู่ Full Digital Journey ที่จะ ตอบโจทย์ลูกค้าในกลุ่มที่มีความพร้อมในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเต็มรูปแบบและต้องการทำธุรกรรมด้วยตนเอง

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์ M2F

10 กรกฎาคม 2561