ไนท์แฟรงค์ ไม่รอโควิดจบงัดคลิปวีดิโอปิดดีลอสังหาฯ

ไนท์แฟรงค์ ไม่รอโควิดจบงัดคลิปวีดิโอปิดดีลอสังหาฯ

          ไนท์แฟรงค์ ประเมินสถานการณ์โควิด-19 ดีที่สุด ต้องรอ 6-7 เดือน ลูกค้ากลับเดินทาง เจรจาดูอสังหาฯได้ปกติในเดือนต.ค. พลิกกลยุทธ์ส่งคลิปวีดิโอ ที่อยู่อาศัยลอนดอนขายคนไทย ขณะที่ลูกค้าต่างชาติ จีน ฮ่องกง มาเลย์ สิงคโปร์ ขอดูของจริงก่อนตัดสินใจ

          นายแฟรงค์ ข่าน กรรมการบริหารและหัวหน้าฝ่ายที่ปรึกษาโครงการที่พักอาศัย บริษัท ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย จำกัด เอเจนซี่ขายอสังหาริมทรัพย์ทั้งคอนโดมิเนียมในไทยให้ต่างชาติ และนำคนไทยไปซื้ออสังหาในต่างประเทศ เช่น ลอนดอน นิวยอร์ก ประเมินสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ว่า ในกรณีโรคซาร์ส (SARS) ใช้เวลา 3 ไตรมาสกว่าจะสิ้นสุดสถานการณ์

          จากการประเมินสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้คาดว่าอัตราการขายที่อยู่อาศัยไทยในปี2563 อาจจะลดลงกว่าในปีที่ผ่านมา โดยหากไม่มีเหตุการณ์ระบาดของ โควิด-19 จะทรงตัวไม่แตกต่างจากปีที่ผ่านมา โดยในปี 2562 ยอดขายอสังหาฯไนท์แฟรงค์ในไทย ลดลง 30-35%แต่เมื่อมีเหตุการณ์โควิด-19 ทำให้ลูกค้าต่างชาติไม่สามารถเดินทางมาดูอสังหาในไทย จึงต้องรอให้สถานการณ์สงบในช่วงเดือนต.ค.จึงจะเริ่มมีการขาย "ในปีที่ผ่านมาเจอกับปัญหาสงครามการค้า และเงินบาทแข็งค่า ทำให้ยอดขายลดลงไปถึง 30-35% แต่ในปีนี้คาดว่าจะทรงตัวก่อนมีโควิด-19 แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์โควิด-19 ส่งผลกระทบต่อการซื้อขายตลาดต่างชาติชะงักลงทันที เพราะลูกค้าเดินทางมาไม่ได้ถึง 2-3 ไตรมาส"

          ทั้งนี้ทางเอเจนซี่อย่างไนท์แฟรงค์ไม่สามารถหยุดความเคลื่อนไหวทางธุรกิจได้ถึง 2-3 ไตรมาส หรือรอเหตุการณ์อีกประมาณ 6-7 เดือนข้างหน้า ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจ ดังนั้นจึงต้องปรับกลยุทธ์ หันไปทำธุรกิจเจรจาการซื้อขายผ่านออนไลน์ มีการติดต่อวีดิโอคอนเฟอร์เรนซ์ รวมไปถึงการ ส่งแบบที่อยู่อาศัยไปให้ลูกค้าดู ทั้งในไทยและต่างประเทศ จึงต้องมีการสื่อสารนำเสนอสินค้า ผ่านออนไลน์ ซึ่งลูกค้าบางรายก็ตอบรับดี โดยเฉพาะลูกค้าคนไทยที่ต้องการซื้ออสังหาฯในลอนดอน สามารถปิดดีลได้เพียงแค่ดู ข้อมูลผ่านคลิปวีดิโอ ก็ลงนามซื้อขายในสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องมาจากเป็นลูกค้าที่รู้จักย่านลอนดอนเป็นอย่างดี "ช่วงนี้อีเวนท์การนำลูกค้าไปดูสินค้าในต่างประเทศต้องเลื่อนออกไป ทั้งลูกค้าไทยไปลอนดอน และลูกค้าต่างชาติมาไทยซึ่งทางเอเจนซี่ไม่สามารถรอไปจนถึง สิ้นเดือนก.ย.ได้ ลูกค้าบางรายเพียงแค่ดูคลิปวีดิโอ ก็ตัดสินใจได้เลย แต่ลูกค้าต่างชาติที่ซื้อสินค้าในไทยโดยเฉพาะตลาด จีน ฮ่องกง มาเลเซีย และสิงคโปร์ ไม่สามารถตัดสินใจได้ เพียงแค่เห็นห้องผ่านคลิป จึงต้องการตัดสินใจโดยการเห็นห้องจริง"

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ

วันที่ : 10 มีนาคม 2563